วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

Joker Game เพราะชีวิตสายลับมันไม่ง่ายอย่างที่คิด! (ไม่สปอยล์เรื่อง)

ช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านนี้มานี้ไม่ได้ออกไปท่องเที่ยวที่ไหน เลยมานั่งดูการ์ตูนอนิเมะที่อยากดูมานานตั้งแต่ได้ข่าวว่าจะออกฉายเรื่อง "Joker Game" เรื่องราวของหน่วยราชการลับญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ชื่อว่าหน่วย D โดยมีเพียงแค่ 8 คนที่ผ่านการทดสอบและได้รับการฝึกฝนจากพันโทยูกิที่เป็นผู้ก่อตั้ง

จากซ้ายไปขวา : Hatano, Fukumoto, Amari, Miyoshi, Yuuki, Kaminaga, Jitsui, Odagiri, Tazaki



TVアニメ公式サイト:http://jokergame.jp/
Twitter:@jokergame_anime
©柳広司・KADOKAWA/JOKER GAME ANIMATION PROJECT


ตัวอย่างที่ไม่สปอยล์เรื่อง และมีแนะนำว่าใครเป็นใครแบบเร็วๆ (เลยเลือกคลิปนี้มาแปะ)


ต้นเรื่องอนิเมะเรื่องนี้มาจากนิยายชื่อดังของญี่ปุ่น (ชื่อ Joker Game กับ Double Joker) แล้วก็เพิ่งได้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ไปไม่นานมานี้ ซึ่งเราก็รู้จักมาจากตอนที่ทำเป็นหนังนี่แหละ จนล่าสุดได้มาเป็นการ์ตูนอนิเมะ 12 ตอนจากProduction I.G 

พอได้ดูก็ไม่ผิดหวังเลย แค่ตอนแรกก็สามารถตรึงให้เราตามดูต่อได้ไปจนจบครบทั้งเรื่อง แม้ว่าเรามีปัญหาในช่วงตอนแรกๆคือจำไม่ได้ว่าใครเป็นใคร >w< เพราะมีตัวละครเยอะมาก และหน้าตาก็คล้ายๆกันประหนึ่งบอยแบนด์ ฮ่าๆๆ แต่พอจับทางได้ว่าใครเป็นใคร โดยจากการดูพวกแววตา ทรงผม ส่วนสูง ก็คิดว่าอาจเพราะตั้งใจฝึกให้คนดูช่างสังเกตด้วยรึเปล่าก็ไม่รู้ หรืออีกนัยหนึ่งคืออาจเกี่ยวกับว่า การเป็นสายลับต้องไม่มีตัวตน แม้แต่ใบหน้าที่แท้จริงก็อย่าให้คนจำได้ (อันนี้คิดเอาเอง แหะๆ)

Joker Game ในแต่ละตอนจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับภารกิจของแต่ละคนที่มีความสามารถต่างกันไป แต่ไม่ได้โชว์บู๊แอ็คชั่นสนั่นจอแบบหนังสายลับรหัส 3 ตัว แต่ค่อนข้างแสดงให้เห็นถึงชีวิตจริงของการเป็นสายลับในโลกแห่งความเป็นจริง เช่นการต้องทำตัวให้เคยชินกับความโดดเดี่ยวอ้างว้าง ที่ไม่สามารถเปิดเผยตัวตนให้ใครรู้ได้เลยแม้กระทั่งชื่อจริง บุคลิก นิสัย ประวัติส่วนตัว ซึ่งพันโทยูกิได้พูดไว้ในอนิเมะตอนที่ 1 (ยกตัวอย่างแค่นี้พอ เดี๋ยวจะเป็นการสปอยล์ไป แหะๆ) 



อนิเมะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราต้องย้อนกลับมาดูเก็บรายละเอียด นั่งทำความเข้าใจใหม่ทุกครั้งหลังเรื่องคลายปมในตอนท้าย ตอนแรกเราคิดว่าจะให้อารมณ์แบบหนัง Now You See Me (ซึ่งมันก็มีอยู่หน่อยๆ แบบพวกทริคหรือการซ้อนแผน) แต่โทนการ์ตูนจริงๆคือจริงจังมาก ดราม่าสุดๆ อาจมีตอนที่ดูผ่อนคลายบ้างตามบุคลิกสายลับและวิธีในการล้วงข้อมูล  เช่น การปลอมตัว แต่ไม่มีการที่ตัวละครหลักทั้งหลายจะมาปล่อยมุกตลกตบเข่าฉาดเลย (แหงล่ะ นี่ไม่ใช่กินทามะ >w<) ยกเว้นว่าจะนั่งพากย์ไปขำไปเอง 

และนอกจากนี้ ยังจะได้เห็นทั้งสองด้านว่าแม้แต่คนในชาติเดียวกันเอง ก็ยังมีพวกที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อปกปิดความผิดของตัวเอง แล้วโยนความผิดให้คนอื่นเป็นแพะรับบาป 

แถมในช่วงท้ายของแต่ละตอน มักมีความรู้สึกของตัวละครที่พูดถึงว่า บางครั้งแม้ในใจจะไม่เห็นด้วยกับคำสั่งจากเบื้องบน แต่ก็ต้องทำไปตามหน้าที่อย่างเลี่ยงไม่ได้ หรือต่อให้หน่วยนี้พยายามล้วงข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ถูกนำไปใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ (คิดว่าเพื่อให้โยงกับเรื่องจริงที่สุดท้ายทุกคนน่าจะรู้กันดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับสงครามครั้งนี้) 

หรือความรู้สึกที่ว่าต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว แม้แต่คนที่เคยรู้จักกัน พอจบภารกิจแล้วก็กลายเป็นคนไม่รู้จักกัน และก็คิดว่าชีวิตที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว เป็นคนดีปิดทองหลังพระนี่แหละคือธีมของการ์ตูนอนิเมะเรื่องนี้ มันก็แอบเศร้าอยู่ลึกๆนะกับชีวิตแบบนี้ จนกว่าจะเลิกเป็นสายลับนั่นแหละ ถึงจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตแบบคนปกติได้ (ทำให้เรานึกไปถึงตอนท้ายเรื่องของหนังเรื่อง Argo เลยล่ะ ทำดีให้แค่ไหนก็ไม่มีใครรู้ ฮือออ T^T)

มีตอนหนึ่งที่พูดถึงเครื่อง Enigma ด้วย เลยนึกถึงไปหนัง The Imitation Game ที่สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงของ Alan Turing ที่ฝ่ายอังกฤษพยายามสร้างเครื่องที่แกะการเข้ารหัสของเครื่อง Enigma ของฝ่ายนาซีเยอรมัน ดูแล้วก็รู้สึกปะติดปะต่อเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ไปด้วยพร้อมๆกัน (แม้ว่าJoker Gameจะไม่ใช่เรื่องจริงก็เถอะ(รึเปล่า?))

ที่พูดมาทั้งหมดนี้สรุปคือชอบนะ >w<

ไม่งั้นคงไม่ลัดคิวให้ก่อนเรื่องเกม St. Hollywood(ตอน2) แน่นอน ฮ่าๆ


ป.ล.ชอบเพลงEDมาก เนื้อหาของเพลงก็ดูตรงกับความรู้สึกในใจของตัวละครในเรื่องนี้ด้วยนะ และก็ชอบลายเส้นการ์ตูนในตอนเพลงปิดเพลงนี้ด้วย ให้อารมณ์การ์ตูนยุคเก่าๆดี

ป.ล.2 พันโทยูกิตอนหนุ่มหล่อมากกก แต่ถ้าให้เลือกใน 8 คนนี้ก็ชอบทาซากิที่สุดเพราะไพ่เนี่ยแหละ (และชอบหน้าตาตอนจริงจังด้วย เข้มสุดๆ ถูกใจ ฮ่า)


ED : เพลง Double - วง Magic of life





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น